นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงมอบหมายให้สถาบันอาหารดำเนินงานโครงการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูงจากผลผลิตประมงเพาะเลี้ยงด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดเห็นสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความยั่งยืนในธุรกิจประมง ในปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3,090,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับประชาชนในพื้นที่ดำเนินงานประมาณ 20 ล้านบาท
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เบื้องต้นกำหนดพื้นที่เป้าหมายดำเนินงานใน 10 จังหวัดภาคกลาง ประกอบด้วย สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี และปทุมธานี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่สำคัญของประเทศ โดยในปี 2564 พบว่า ผลผลิตประมงน้ำจืดในพื้นที่ภาคกลางสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินงานโครงการดังกล่าวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มีความก้าวหน้าไปกว่า 36% มีผู้ประกอบการผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ 14 กิจการ เช่น ผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงปลานิล ปลากะพง หอยเชลล์ ปลาดุก ปลาสลิด ปลาช่อน ปลากระดี่ เป็นต้น โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี แนะนำพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์จนได้สูตรและเข้าสู่กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์น้ำแปรรูปพร้อมทานออกสู่ตลาด เช่น
ผลิตภัณฑ์ปลาช่อน พัฒนาไปเป็นปลาช่อนแม่ลาเค็มน้อย ผลิตภัณฑ์ปลาช่อนแม่ลาแดดเดียวพัฒนาไปเป็นปลาช่อนแม่ลาแดดเดียวสมุนไพร ปลาสลิดแดดเดียว ปลาสลิดทอดกรอบ น้ำพริกปลาสลิด พัฒนาเป็นสแน็กจากก้างปลาสลิด ข้าวเกรียบปลาสลิด ผลิตภัณฑ์ปลานิลแดดเดียวพัฒนาไปเป็นน้ำพริกปลาย่างแห้ง ผลิตภัณฑ์ปลาเค็มรวนพร้อมทานพัฒนาไปเป็นซุปผักปลาก้อน
ผลิตภัณฑ์ปลาหมึกกรอบปรุงรสพัฒนาไปเป็นสแน็กขอบหอยเชลล์ ผลิตภัณฑ์ปลาดุกเส้นทอดพัฒนาไปเป็นปลาดุกหยอง และผลิตภัณฑ์ปลาร้า น้ำปลาร้า พัฒนาไปเป็นปลาร้าผงอัดก้อน เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการโดยตรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยกระจายรายได้ให้กับชุมชนด้วย
“ตั้งเป้าหมายพัฒนาผู้ประกอบการแปรรูปอาหารให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากวัตถุดิบประมงเพาะเลี้ยงให้มีมูลค่าสูง ด้วยการนำนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้
สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคในยุคปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปมูลค่าสูงจากผลผลิตประมงเพาะเลี้ยงที่ตรงกับความต้องการของตลาด พร้อมทั้งเชื่อมโยงสายโซ่คุณค่าให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่ม กระจายรายได้ไปสู่เกษตรกรและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในพื้นที่และสร้างความยั่งยืนของธุรกิจประมงเพาะเลี้ยง”
นอกจากนี้ คาดหวังว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการก็จะได้นำองค์ความรู้และทักษะไปพัฒนาต่อยอดและขยายผลไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สร้างโอกาสทางการตลาดโดยการเชื่อมโยงกับคู่ค้าออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ในเขตจังหวัดภาคกลางเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต