วันนี้มาเปิดสนามพระด้วยจิตใจหม่นหมองเหมือนทุกคน กับคดีชั่วร้ายที่หนองบัวลำภู ซึ่งกระฉ่อนไปทั่วโลก ไม่อยากเชื่อว่าตำรวจเลวๆคนเดียวจะฆ่าคนโดยเฉพาะเด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไปถึง 30 กว่าคน และยังมีคนบาดเจ็บอีก–ชาวพุทธที่เชื่อเรื่องบาปบุญกรรมเวร จึงสาปแช่งให้ไอ้ฆาตกรเศษมนุษย์คุดทะราด คนนี้ตกนรกหมกไหม้อย่าได้ผุดเกิด…..เดินดูสนามพระของเราต่อ เพื่อให้จิตใจสงบขึ้น และขออาราธนาอำนาจพุทธคุณบารมีจากทุกองค์ แผ่เมตตาให้ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ ได้พบความสงบสุขในภพใหม่ด้วยเทอญ …..n
- องค์แรก คือ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ที่ กำนันมานะ คงวุฒิปัญญา ส่งภาพมา ให้ตื่นเต้น…..เพราะเป็นจักรพรรดิพระเครื่อง องค์ใหม่ ที่เพอร์เฟกต์ทั้งฟอร์มองค์ที่สมส่วน พิมพ์พระลึกชัดทั่วองค์ ไม่มีรอยสัมผัสใช้แม้แต่ปลายเล็บ เนื้อมวลสารก็มีส่วนผสมก้อนขาว เกร็ดแดง ก้อนดำและอื่นๆครบสูตร…..และยังมีมวลสารที่เป็นหลักฐานการันตีพระแท้ได้ดีที่สุดคือ เปลือกเม็ดข้าวสารหรือชายผ้าจีวร ตรงใต้พระหนุด้านซ้าย…..พิจารณาครบถ้วนกระบวนความแล้ว บอกได้ว่าองค์นี้ที่เทียบชั้นได้กับพระแชมป์ท็อปไฟว์ พระองค์ครู ทุกองค์ ซึ่งก็ยินดีกับอดีต รมต. อุดมเดช รัตนเสถียร ผู้ครอบครองเจ้าขององค์จริง ซึ่งได้ชื่อว่า “องค์ รมต.” ไปเรียบร้อย เหมือนพระระดับท็อปๆที่มีฉายา–ถามราคาได้ยินว่าแบบนี้เป็นร้อย
- องค์ที่สอง เป็น พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้ากลาง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ของ เสี่ยปิง ทวีชัย ๙…..พระสภาพแท้ดูง่าย ใช้ดีด้วยอานุภาพพุทธคุณ ที่มีประสบการณ์เลื่องลือ ทั้งเมตตามหานิยม มหาอำนาจ ปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดภัย…..องค์นี้สวยอวดได้ เป็นพระชั้นที่สมบูรณ์ ทั้งฟอร์มทรงมาตรฐาน พิมพ์พระถูกต้องตามตำรา และสีเนื้อที่นิยมสุด มวลสารหนึกแน่น คราบกรุที่เป็นธรรมชาติ และแม้เป็นพระพิมพ์รอง แต่ในปัจจุบันหาองค์งามๆ แบบนี้ ก็ยากพอๆกับพิมพ์นิยมเบอร์ต้น
- องค์ที่สาม เป็น พระปิดตา พิมพ์ปั้น ลอยองค์ เนื้อผงเคลือบรัก หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี…..พิมพ์นี้เป็นพระยุคแรก ที่หลวงพ่อแก้วสร้างด้วยวิธี ปั้นเนื้อขึ้นแบบทีละองค์ด้วยมือ เพื่อมอบผู้ร่วมกุศลเข้าป่าหาไม้มาสร้างวัด นิยมเรียกกันว่า “พระแลกซุง” หรือ “พระลากซุง”…..องค์นี้ ของ เสี่ยวิสูตร เจริญยนต์ เป็นองค์ที่มีความงามสมบูรณ์สุดๆองค์หนึ่ง ด้วยรูปทรง องค์พระสมส่วน เส้นสายลายศิลป์ที่ถูกต้อง ลึกชัดที่สำคัญคือ เนื้อใน ที่ส่องเห็นในส่วนที่ “รักดำ” เปิดให้เห็นเป็นเนื้อผงคลุกรัก อย่างที่เรียกกันว่า “เนื้อกะลา”….. เห็นรุ่นที่คนชอบพระหลวงพ่อแก้วสนใจมาก เพราะเป็นพระสร้างชื่อเสียงยุคแรก แต่ราคาค่าความนิยมยังเป็นรองพระปิดตาพิมพ์มาตรฐาน อย่าง พระปิดตาพิมพ์ใหญ่ หลังแบบ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก เพราะมีแบบพิมพ์ให้ได้ศึกษาเป็นมาตรฐาน…..แต่พระปิดตา พิมพ์ปั้น ไม่มีแบบพิมพ์มาตรฐาน จึงยากต่อการพิสูจน์ทราบ ต้องดูกันองค์ต่อองค์ จากถิ่นที่มา รูปทรง เส้นศิลป์ สำคัญสุดอยู่ที่เนื้อมวลสาร ที่ต้องเป็น ผงคลุกรัก สีน้ำตาล ที่มีมวลสารละเอียดแน่น ส่วนผสมครบสูตรเป๊ะ แบบองค์นี้–ราคาเวลานี้ ว่ากันหลักล้านเข้มๆ เหมือนกัน
- อีกสำนักเป็น พระขุนแผน เนื้อดินเผา หลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ของ เสี่ยเพชร–อิทธิ ชวลิตธำรง สุดยอดนักสะสมของเมืองไทย ที่เก็บทั้งพระดี เครื่องรางเด็ด ที่มีชื่อเสียง ถูกแพง เล่นหมด แต่ต้องเป็นองค์แชมป์ ชิ้นงามๆ เท่านั้น…..อย่างองค์นี้เป็นพระดีมีชื่อเสียง ได้รับความนิยมสูงในพื้นที่ เพราะผู้สร้างเป็นพระสหธรรมิกกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ได้รับคำชี้แนะจาก หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ให้ไปพบกราบเป็นอาจารย์แทนท่านได้ ซึ่งต่อมาเมื่อ หลวงพ่อโหน่ง มรณภาพ หลวงพ่อปานท่านไปไม่ทันฌาปนกิจ ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า น่าเสียดายฉันมาไม่ทันได้ยับยั้ง พวกท่านได้เผาร่าง “พระอรหันต์” ไปแล้ว…..หลวงพ่อโหน่ง ท่านยังมีชื่อเป็นพระอาจารย์ ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่ชาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เคารพศรัทธาอย่างสูง มีเรื่องเล่าว่ารถโดยสารสายบางลี่ อ.สองพี่น้อง มีรูปท่านบูชาติดหน้ารถทุกคัน และไม่เคยปรากฏมีอุบัติเหตุถึงมีผู้บาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตแม้ครั้งเดียว…..ท่านอยู่จำวัดในป่าช้า ฉันแต่เผือก มัน ถั่วงา และสร้าง พระพิมพ์ด้วยเนื้อดินเผา จนมีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูงสุดในพื้นถิ่น เป็นพระราคาหลักหมื่น หลักแสน…..อย่างพิมพ์สมเด็จฐานแซม พิมพ์ซุ้มกอ และพิมพ์ขุนแผน อย่างองค์นี้ ในอดีตมีราคาสูงกว่าพระผงของขวัญ วัดปากน้ำ ยิ่งองค์งามๆ สภาพแชมป์แบบนี้ ขอแลกองค์ต่อองค์ ยังเคยถูกปฏิเสธ
- ตามมาด้วย พระนางขาโต๊ะ เนื้อดินเผา หลังจาร อักขระลายมือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม องค์นี้ก็ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง…..เป็นพระพิมพ์ เนื้อดินเผา ที่ดูผ่านๆเป็นพระธรรมดา แต่พิจารณาอย่างลึกซึ้ง จะรู้ว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นพระพิมพ์ ที่หลวงปู่บุญสร้างไว้อย่างตั้งใจ เพราะด้านหลังองค์พระ มีการลงลายมือจารอักขระพระคาถา ไว้แบบครบตัวครบสูตร…..เป็น 1 ในพระพิมพ์มาตรฐาน ที่มีผู้แสวงหามาก โดยเฉพาะผู้หญิงแถวหน้า เมืองนครปฐม มีใบสั่งหาองค์งามๆ จึงซื้อขายกันเร็ว และราคาสูงถึงหลักแสนทุกองค์…..ต่างจากองค์แชมป์องค์นี้ ที่เจ้าของบุกไปนิมนต์จากรังใหญ่เมืองนครปฐม มาจำวัดอยู่ กทม. และก็ไม่ได้นิมนต์มาองค์เดียว แต่ยกมาทั้งรัง ล้วนเป็นพิมพ์นิยมหายาก องค์งามๆ สภาพแชมป์ทั้งหมด –โปรดติดตามองค์ต่อไป
- อีกรายการเป็น เหรียญเสมาเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๐๘ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ของ เสี่ยแบ๊งค์ เลิศสรรค์ศรัญย์ ซึ่งตอนนี้จัดเป็นเหรียญรุ่นนิยม ที่กระแสมาแรง กว่า เหรียญหลวงปู่ทวดทุกรุ่น เจอแล้วอย่าปล่อยผ่าน…..n
- สุดท้ายเป็นเครื่องรางของขลังที่ไม่ได้ดูกันนาน คือ เบี้ยแก้ ถักเชือกลงรัก ยุคต้น หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ อ.เมือง จ.อ่างทอง พระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงสูงสุด ด้านวิชาอาคมของเมืองอ่างทอง…..ท่านเป็นชาว อ.วิเศษชัยชาญ เกิดปี พ.ศ.๒๔๒๕ เรียนหนังสือกับหลวงปู่เถื่อน วัดหลวง จ.อ่างทอง ถึงอายุ ๒๐ ปี ก็อุปสมบทที่วัดอ้อน โดยพระครูสมุห์เถื่อน เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วได้ติดตาม ท่านเจ้าคุณพระรัตนมุนี ซึ่งเป็นพระพี่ชาย มาจำพรรษาอยู่ที่วัดหงส์รัตนาราม กรุงเทพฯ เรียนวิชาด้านคันถธุระ วิปัสสนาอยู่ ๘ ปี จนมีความชำนาญสูง จนปี พ.ศ.๒๔๕๔ หลวงปู่เนตร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ มรณภาพ ญาติโยมจึงนิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาส…..ด้านวิชาอาคม ท่านได้เรียนกับพระอาจารย์ ทั้งพระฆราวาส มากมาย โดยเฉพาะกับอาจารย์วาต บ้านท่ามะขาม ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย เคยเป็นขุนโจรมีบารมีมากในเขต จ.อ่างทอง จ.สุพรรณบุรี ร่ำลือว่ามีวิชาอาคมเข้มขลัง ล่องหนหายตัวได้ แต่บั้นปลายชีวิตเลิกเป็นโจร และบวชเป็นพระ…..ท่านจึงได้รับถ่ายทอดวิชา สร้างเบี้ยแก้ งาแกะ รูปแบบต่างๆ ผ้ายันต์แดง ตะกรุดมหารูด ทำให้สร้างพระ เครื่องของขลังได้ศักดิ์สิทธิ์ จึงได้รับความนิยม ราคาสูง ทั้งพระเครื่องของขลัง…..ที่มีชื่อเสียง เช่น เหรียญรูปเหมือน เครื่องรางงาแกะ อย่างสิงห์งาแกะ ที่เล่ากันว่า ใครมีใช้ติดตัวเดินฝ่าฝูงวัว วัวจะส่งเสียงร้องวิ่งแตกตื่น แบบ “ฝูงแตก” ทีเดียว…..ตะกรุดโทน มหารูด ก็ขึ้นชื่อลือชาด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี โดยมีเคล็ดการใช้บูชาว่ารูดไว้ข้างหน้า เป็นมหาอุด รูดไปด้านซ้าย เป็นเมตตามหานิยม รูดไว้ด้านขวาเป็นมหาอำนาจ รูดไว้ด้านหลังกำบังกายหายตัว และ ตะโพนงาแกะ ท่านสร้างแจกศิษย์ที่เป็นศิลปิน (ลิเก) มีคุณวิเศษด้านเมตตามหานิยม …..
ส่วนเบี้ยแก้ เป็น ๑ ใน ๓ “เบี้ยแก้” ยอดนิยม คือ เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง กทม. 2. เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม และ เบี้ยแก้ หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ …..องค์นี้ ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี ซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สวยเดิม มีเอกลักษณ์การถักเชือกหุ้มลายกระสอบ แบบปิดท้องเปิดหลัง ดูเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันองค์ที่มีสภาพงามสมบูรณ์เยี่ยมขนาดนี้ อยู่ที่หลักแสนปลายถึงหลักล้าน
- สุดท้ายก็หาดูยาก คือ ตะกรุด ไมยราพสะกดทัพ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน อ.เมือง จ.เพชรบุรี สุดยอดเครื่องรางตะกรุด ที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมสูง และหาพบยากสุดๆ…..เป็นตะกรุดที่พิธีกรรมการสร้าง เข้มขลังซับซ้อน มีเคล็ดลับสร้างปลุกเสกเป็นตำรับวิชาเฉพาะตัว ที่ต้องถ่ายทอดแบบถึงลูกถึงคน ซึ่งอาจารย์กับศิษย์ต้องมีสมาธิพลังจิตเข้มขลัง มีความมุ่งมั่นเสมอกัน…..เป็นเครื่องรางที่สร้างอย่างพิถีพิถัน มอบเฉพาะบุคคลที่คู่ควร พบเห็นแพร่หลายในวงการนับจำนวนได้แค่หลักหน่วย ดอกนี้ ของ เสี่ยกานต์ อุดร เป็นดอกล่าสุดที่เข้าสู่วงการ มีความสมบูรณ์งดงาม ด้วยเชือกถัก รักเก่าแบบเต็มร้อย ราคาจึงว่ากันถึงหลักล้าน…..ลากันด้วยเรื่องปิดท้ายของ เสี่ยปรีชา เจ้าของสินค้าขายออนไลน์ ซึ่งเป็นนักนิยมสะสมพระเครื่องสายส่งประกวด ล่าโล่รางวัล…..โดยมีลูกน้องเป็นสายสืบ เสาะหาพระสวย พระแชมป์ เจอแล้วมารายงานให้รู้ ตามไปดู ถ้าเจอที่ใช่ ที่ชอบ ก็จะซื้อมา แล้วเมกชัวร์ด้วยการส่งประกวด ซึ่งได้โล่ รางวัลมาติดมาตั้งเต็มบ้าน แต่ก็ยังไม่หยุดแสวงหา…..เดือนก่อนลูกน้องคนเดิมรายงานว่าเจอพระสวยพระแชมป์ เป็นพระกรุพระเก่าหายาก ของลุงผู้ใหญ่บ้านใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งดูแล้วเอามาส่งประกวดได้แชมป์แน่…..
เสี่ยปรีชา ถามว่า พระอะไร ลูกน้องก็บอกว่าไม่รู้ ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่องค์พระสวยสมบูรณ์มาก เสี่ยปรีชา ก็ให้ลูกน้องโทร.หาเจ้าของ โดยให้เปิดสปีกเกอร์พูดกัน โดยเสี่ยเริ่มคุยก่อนว่า ลูกน้องบอกว่าลุงมีพระกรุ พระเก่า องค์งามๆจะขาย ขอถามว่าเป็นพระอะไร…..ลุงตอบว่าไม่รู้เป็นพระอะไร บรรพบุรุษได้มาจากไหนก็ไม่รู้ มอบให้ไว้เป็นมรดก แต่บอกได้ว่าเป็นพระกรุ พระเก่าองค์เดียวในโลก ไม่เห็นมีใครเหมือนและไม่เหมือนใครแน่นอน…..เสี่ย ฟังถึงตรงนี้ ก็ส่งสัญญาณลูกน้องตัดสาย ลูกน้องก็ถามเสี่ยไม่สนใจเหรอ เสี่ยก็พยักหน้า บอกว่าพระอะไรก็ไม่รู้ เก๊แท้ก็ไม่รู้ ขืนซื้อแล้วจะเอาไปประกวดกับใคร แถมบอกว่ามีองค์เดียวในโลก ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร–ซื้อแล้วใครจะรู้ว่าต้องส่งประกวดหมวดไหน เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
