ไทยลีกนัดที่ 18 เป็นเกมกลางสัปดาห์ก็ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย นอกจากผลงานของแต่ละทีมที่ยังคงขับเขี้ยวกันอย่างเข้มข้นเหมือนเช่นเคยแล้นนั้น ทางด้านนักเตะก็ทำผลงานที่ดีไม่แพ้กัน และนี่คือโฉมหน้า 11 แข้งยอดเยี่ยม แต่ละตำแหน่งจะมีใครบ้างมาดูกัน
ผฺู้รักษาประตู : สมพร ยศ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ความมั่นใจเต็มเปี่ยมสำหรับ สมพร ยศ การพบกับ ชลบุรี เอฟซี เป็นอีกหนึ่งเกมที่เจ้าตัวโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะช่วงครึ่งเวลาแรกที่ช่วย กิเลนผยอง ไม่ให้เสียประตูจากการบุกเข้าใส่อย่างหนักของพลพรรคฉลามชล จนในที่สุดช่วย เอสซีจี เมืองทงฯ เก็บชัยชนะกลับบ้านได้สำเร็จ
กองหลัง : สุพรรณ ทองสงค์ (สุพรรณบุรี เอฟซี)
สุพรรณ บัญชาการเกมรับให้ทีมได้ยอเยี่ยมมากๆ มีจังหวะอ่านเกมรุกคู่แข่งได้ดี คอยซ้อนเพื่อนร่วมทีมสกัดบอลจังหวะสำคัญได้หลายครั้ง แถมยังได้ช่วยทีมลุ้นทำประตูจากลูกตั้งเตะอยู่ตลอดทั้งเกม ก่อนที่พา สุพรรณบุรี เปิดรังเก็บคลีนชีต เหนือ ระยอง เอฟซี 1-0
กองหลัง : วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
หลังจากติดโทษแบนนัดก่อน คาร์โดโซ่ กลับมาลงสนามช่วย บีจี ปทุมฯ บู๊กับ ตราด เอฟซี เกมนี้เจ้าตัวก็ผลิตสกอร์จากการยิงจุดโทษ และด้วยความเด็ดขาดทำให้ คาร์โดโซ่ ปราการหลังจอมแกร่งทำไปแล้วถึง 11 ประตูจาก 18 เกมเป็นดาวซัลโวของทีมอยู่ในเวลานี้
กองหลัง : เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)
การที่ สวาทแคท ไม่เสียประตูให้กับ ราชบุรี ส่วนหนึ่งต้องยกให้ เฉลิมพงษ์ ที่ยืนคุมเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม การตัดสินใจในการสกัดบอลก็ทำได้ดี ก่อนพาทีมเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ และเป็นชัยชนะ 5 นัดติดต่อกันของ นครราชสีมา มาสด้า อีกด้วย
กองกลาง : จอห์น บาจโจ้ (สุโขทัย เอฟซี)
โดดเด่นที่สุดในสัปดาห์นี้คงต้องยกให้ บาจโจ้ ที่ระเบิดฟอร์มเก่งยิงคนเดียว 4 ประตูช่วย สุโขทัย พลิกกลับมาชนะ พีที ประจวบ สุดมันส์ด้วยสกอร์ 4-3 พร้อมกับเป็นการยิง 4 ประตูในเกมเดียวครั้งแรกกับการค้าแข้งของเจ้าตัวอีกด้วย
กองกลาง : วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
คลาสบอลยอดเยี่ยม ช่วยทีมเล่นเกมรุก และรับได้ดี จังหวะสกัดบอลตัดเกมรุกชลบุรีก็มีให้เห็นหลายครั้ง ส่วนเรื่องเกมรุกก็มีจังหวะจ่ายบอลสวยๆ ให้เพื่อลุ้นเข้าไปทำประตูก็มีเห็นอยู่เหมือนกันในเกมนี้
กองกลาง : ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
เป็นอีกหนึ่งเกมที่ เจ้านิว ทำผลงานได้ดีกับการคุมเกมแดนกลางให้ทัพ เดอะ แรบบิท ด้านเกมรุกก็มีจังหวะจ่ายบอล และประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมหาโอกาสทำประตูหลายครั้งก่อนที่เจ้าตัวจะมาเรียกจุดโทษให้ทีมได้ ส่วนเกมรับก็มีบทบาทไม่น้อยคอยตัดเกมแดนกลางของ ตราด แบ่งเบางานของกองหลังได้เยอะ
กองกลาง : วิลเลี่ยน พอพพ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
เกมที่ เอสซีจี เมืองทองฯ บุชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-1 คนที่โดดเด่นที่สุดของทีมเยือนคงหนีไม่พ้น พอพพ์ ที่เกมนี้จดไป 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ โดยประตูที่เจ้าตัวยิงนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ กิเลนผยอง บุกนำเจ้าถิ่น 1-0 ทั้งที่ ฉลามชล ก็มีโอกาสจบสกอร์อยู่หลายครั้งก็ตาม
กองหน้า : ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
ดิโอโก้ ดาวยิงที่เข้าสู่วัย 33 ปี แต่ทว่ายังมีคลาสบอลที่สุดยอด มีจังหวะทำเกมรุกสวยๆ สร้างสรรค์โอกาสดีๆ ให้เพื่อนร่วมทีมหลายครั้ง แถมเกมนี้ ดิโอโก้ ยังสามารถยิงประตูชัยช่วย เดอะ แรบบิท ชนะ ตราด เอฟซี 2-1 และเป็นประตูแรกของเจ้าตัวกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อีกด้วย
กองหน้า : อาทิตย์ บุตรจินดา (โปลิศ เทโร เอฟซี)
อาทิตย์ ยิง 2 ประตูสุดสำคัญโดยลูกแรกเป็นการยิงตีเสมอ 2-2 ช่วงท้ายครึ่งแรก ก่อนที่ต้นครึ่งหลังจะเป็นทาง อาทิตย์ ที่ได้โอกาสแหวกแนวรับ เขี้ยวสมุทร หลุดไปยิงประตูแบบง่ายๆ ให้ทีมพลิกจากที่ตามหลังก่อนถึง 2 ลูกกลับมาขึ้นนำเป็น 3-2 ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะของ โปลิศ เทโรฯ ที่บุกชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ 5-3
กองหน้า : วันแดร์เลย์ ดิอาส มารินโญ่ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
แดร์เลย์ ยิงได้ 1 ประตูในนัดที่พบกับ ชลบุรี โดยตลอดทั้งเกมนี้เจ้าตัวทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทั้งจังหวะการพักบอล ครอบครองบอลไว้กับตัวเองทำให้แนวรับเจ้าถิ่น ฉลามชล แย่งบอลได้ยาก และทำให้เพื่อนคนอื่นๆมีพื้นที่เล่นบอลได้ง่าย