วันศุกร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 18.29 น.
หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดอู่ยาช้ำใจถูกอดีตพระลูกวัดที่ลาสิกขาไปแล้วใช้เอกสารหลวงพ่อทำแอพธนาคาร โอนเงินเดือนของหลวงพ่อและเงินกฐินเกือบล้านบาทที่เตรียมจ่ายค่าก่อสร้างพระหลวงพ่อโสธรสันติสุข เนื้อทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไปจนเกลี้ยงเหลือติดบัญชีแค่ 14 บาท
ที่ จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งจากนายณัฐธัญพงศ์ จิตต์ใจฉ่ำ กำนันตำบลดอนกำยาน ว่าเจ้าอาวาสวัดอู่ยาถูกอดีตพระลูกวัดใช้แอพโอนเงินจากบัญชีหลวงพ่อไปกว่าล้านบาท หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.ศุภกร สุดอารมณ์ รอง สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบร่วมกับนายก อบต.ดอนกำยาน กรรมการวัดอู่ยา และผู้ใหญ่บ้าน พบหลวงพ่อพระครูวิมลปริยัตยาภรณ์ (หลวงพ่อทองสุขอินทร์ประเสริฐ) อายุ 89 ปี เจ้าอาวาส พระมหากมลกตปฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และพระลูกวัดกำลังนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ในศาลา
จากการสอบถามพระสมภพกิตติภฺโท พระลูกวัดเล่าว่าเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมาอาตมาและคนขับรถวัดได้พาหลวงพ่อพระครูวิมลปริยัตยาภรณ์ เจ้าอาวาส ไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงไทยสาขามาลัยแมน จำนวน 890,000 บาทเพื่อจะนำไปจ่ายค่าก่อสร้างหลวงพ่อพุทธโสธรสันติสุข เนื้อทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าไม่สามารถถอนเงินจำนวนดังกล่าวได้เนื่องจากเงินถูกถอนออกไปผ่านทางแอพมือถือไปหมดแล้วเหลือเงินอยู่ในบัญชีแค่ 14 บาทเท่านั้น
พระสมภพกิตติภฺโท พระลูกวัดกล่าวอีกว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารถามอาตมาว่าหลวงพ่อใช้แอพอะไรอาตมาบอกว่าหลวงพ่อไม่ได้ใช้แอพหลวงพ่อเล่นโทรศัพท์ไม่เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่ามีคนใช้แอพเบิกเงินหลวงพ่อไปหมดแล้วทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงตรวจสอบข้อมูลให้พบว่ามีคนใช้แอพโอนเงินจากบัญชีส่วนตัวของหลวงพ่อครั้งแรก 200,000 บาทจากนั้นมีการโอนต่อเนื่องครั้งละ 100,000 บาทเรื่อยมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นเงินกฐินที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญจำนวน890,000บาทที่หลวงพ่อได้นำมาฝากรวมกับบัญชีส่วนตัวที่ใช้รับเงินกิจพัฒน์ (เงินเดือนหลวงพ่อ) อีกเดือนละ 3,000 บาทตั้งแต่ปี 2560 ก็ถูกโอนออกไปจนหมดบัญชี
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 หลวงพ่อได้ไปเบิกเงินจำนวน 15,000 บาทที่ธนาคารกรุงไทยโดยมีนายธนากร ธนประณีต อดีตพระลูกวัดอู่ยาซึ่งบวชอยู่ที่วัดอู่ยามากว่า 5 ปีจนได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นถึงพระมหา ขณะที่บวชอยู่วัดเป็นพระที่ขยันช่วยงานวัดทุกอย่างปรนนิบัติหลวงพ่อจนได้รับความไว้วางใจต่อมาได้คบหากับหญิงสาวคนหนึ่งกระทั่งตกลงแต่งงานจึงลาสิกขาหลังจากลาสิกขาได้ไม่นานก็พาหลวงพ่อไปเบิกเงินขณะที่ทำเรื่องเบิกเงินอยู่ธนาคาร ได้มาขอเอกสารบัตรประจำตัวหลวงพ่ออ้างว่าทางธนาคารขอจากนั้นไปด้ไปทำแอพธนาคารโดยผูกหมายเลขบัญชีกับเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองหลังจกนั้นก็แอบโอนเงินเดือนของหลวงพ่อเรื่อยมาโดยที่หลวงพ่อไม่ได้เฉลียวใจ
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 หลวงพ่อได้ไปเบิกเงินจำนวน 890,000 บาทเพื่อนำมาจ่ายค่าก่อสร้างพระพุทธโสธรซึ่งมีค่าใช้จ่ายเกือบ 2,000,000 บาทและได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเงินไม่เหลือแล้วจึงเรียกกรรมการวัดกำนันผู้ใหญ่บ้านายก อบต.มาร่วมหารือกันว่าจะทำยังไงดี ล่าสุด อาวาส พระมหากมลกตปฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่นายธนากร ธนประณีต หรือมหาเจ เพื่อสอบถามโดยนายธนากร หรือเจ รับว่าเป็นคนโอนเงินหลวงพ่อไปจริงแต่จะขอผ่อนจ่ายให้เดือนละ 10,000 บาทแต่ทางผู้นำไม่ยอมจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี
สำหรับเงินจำนวนกว่า 1,350,000 บาทที่นายธนากร ใช้แอพโอนจากบัญชีของหลวงพ่อไปเข้าบัญชีตัวเองก่อนจะเบิกออกไปได้นำไปเป็นค่าสินสอดขอสาวและนำไปดาวน์บ้านและรถยนต์ป้ายแดง ขณะนี้นายธนากร หรือเจ ได้ไปทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในเขต จ.ปทุมธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป