เรื่องซุกไว้8ด.เพราะร้อยเวรลาออก ผัวเมียถูกชนจนพิการ

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่สภ.ทุ่งคอก จ.สุพรรณบุรี นางอำไพ ใจซื่อ เข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมนำหลักฐานเพิ่มเติมคือภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าปั๊มน้ำมันมามอบให้ และติดตามความคืบหน้าคดีนางณภัทร ตัญวัฒนา น้องสาว และนายธนเดช ตัญวัฒนา น้องเขย ที่ถูกรถกระบะชนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันปตท.ทุ่งคอก สี่แยกหนองวัลย์เปรี้ยง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 ก.ค.63 

โดยนางอำไพ ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุนางณภัทร กับนายธนเดช น้องสาวและน้องเขย กำลังเดินทางมาหาตนที่บ้านโดยขับขี่รถจยย. มาตามถนนสายมาลัยแมน จากสี่แยกหนองวัลย์เปรียงมุ่งหน้าสู่ตลาดทุ่งคอก โดยอยู่ในช่องทางซ้ายสุด เมื่อมาถึงหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. จู่ๆ รถกระบะที่ขับอยู่ช่องทางขวาสุดได้เลี้ยวตัดหน้ารถกระบะที่อยู่เลนกลาง ก่อนจะตัดเข้าปั๊มน้ำมันจึงพุ่งชนรถจยย. เข้าอย่างจัง ทำให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ผ่านมา 8 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า

ด้านนายธนเดช สามีของนางณภัทร กล่าวว่า วันนี้ครอบครัวตนได้รับความเดือดร้อนมาก หลังจากภรรยาตนเกิดอุบัติเหตุ ตนป่วยโรคหัวใจทำงานหนักไม่ได้ ก่อนเกิดอุบัติเหตุภรรยาตนเป็นหัวหน้าครอบครัวทำงานหาลี้ยงตนและลูก 2 คน ตนเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่รู้เรื่องกฎหมาย ตนมาตามเรื่องที่ตำรวจก็เงียบ ถามไปที่ประกันก็บอกให้แพทย์ระบุให้ละเอียด ตนสงสารลูกและภรรยามากจึงไปขอความช่วยเหลือจากพี่สาวภรรยาให้ช่วย วันนี้ได้คนใจดีมาพร้อมนักข่าวมาช่วย ตนเชื่อว่าเรื่องคงจะคืบหน้า ทุกวันนี้ตนต้องไปยืมหาเงินมารักษาและจ้างคนเฝ้าภรรยา เพราะตนต้องไปทำงานที่พอทำได้ และดูแลลูก ๆ ทั้งสองคน

ด้าน ร.ต.อ.ปัญญา อยู่พิทักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งคอก เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้เออลี่ออกไปแล้วเมื่อปลายปี 63 ที่ผ่านมาเรื่องจึงถูกเก็บเงียบอยู่ในลิ้นชักใต้โต๊ะนานถึง 8 เดือน วันนี้ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ บุญรอด ผกก.สภ.ทุ่งคอก ได้มอบหมายให้ตนรับหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนแทนตำรวจผู้ที่ลาออกไป และจากการตรวจสอบดูสำนวนในคดีหลักฐานขาดเพียงใบชันสูตรผลการตรวจรักษาของผู้เสียหายจากแพทย์โรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาตัว จึงได้ทำหนังสือสอบถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไปแล้วคาดว่าทราบผลภายใน 2-3 วัน หลังจากนั้นได้เรียกฝ่ายคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.