เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบหมายให้นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 5 จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าปฏิบัติการเปิดทางน้ำ โดยใช้เครื่องจักรกลประเภท รถขุดไฮดรอลิคแบบลงโป๊ะ จำนวน 1 ลำ เข้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณคลอง 14 ในเขตพื้นที่ ตำบลหนองสามวัง อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี มีวัชพืชสะสมประมาณ 8,500 ตัน และคลองระบายใหญ่ สุพรรณ 2 ในเขตพื้นที่ ตำบลยางยาว อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี มีวัชพืชสะสมประมาณ 10,000 ตัน ซึ่งมีวัชพืชไหลเข้ามาสะสมหนาแน่น ทำให้น้ำเกิดการเน่าเสีย และสร้างความลำบากแก่ประชาชน โดยในปัจจุบันฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 5 สำนักเครื่องจักรกลได้ดำเนินการกำจัดวัชพืชแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ทั้งสองคลอง แล้ว
ในวันเดียวกันนี้ นายสุพิศยังได้ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 6 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 6 โดยได้นำเรือกำจัดวัชพืชชนิดรถขุดไฮดรอลิคแบบลงโป๊ะจำนวน 1 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินงานกำจัดวัชพืชและผักตบชวา เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องน้ำให้กับ ประชาชน เกษตรและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ คลอง 13 สายกลาง ตำบลบึงคอไห อำเภอลำลูกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ สำนักงานชลประทานที่ 11 ปริมาณวัชพืช 24,150 ตัน ซึ่งดำเนินการได้แล้ว 40% และคลองญี่ปุ่นใต้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระยาบรรลือ สำนักงานชลประทานที่ 11 โดยมีปริมาณวัชพืช 3,237 ตัน และดำเนินการได้แล้ว 13% ซึ่งทั้งสองคลองคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2564
นายสุพิศเปิดเผยว่า ได้เร่งรัดส่วนบริหารเครื่องจักรกลทุกส่วนและฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับงานกำจัดวัชพืชโดยให้เร่งดำเนินการเก็บวัชพืชโดยเฉพาะผักตบชวาให้เสร็จโดยเร็วเพื่อป้องกันปัญหาจากการมีสิ่งกีดขวางในการระบายน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคของประขาชน พร้อมทั้งเพื่อเป็นการเปิดทางน้ำเพื่อระบายน้ำใช้ในการผลักดันน้ำเค็มที่กำลังรุกขึ้นสูงในขณะนี้