5 ต.ค.64 เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ในช่วงวันที่ 23 ก.ย. – 5 ต.ค. 64 เกิดอุทกภัยใน 32 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 205 อำเภอ 1,100 ตำบล 7,489 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 286,577 ครัวเรือนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย สูญหาย 1 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 18 จังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงาน จากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. 64 – ปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 32 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 205 อำเภอ 1,100 ตำบล 7,489 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 286,577 ครัวเรือน
สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี ปราจีนบุรี กำแพงเพชร) ผู้เสียชีวิต 8 ราย (ลพบุรี ชาย 6 ราย เพชรบูรณ์ ชาย 1 ราย ชัยนาท ชาย 1 ราย) ผู้สูญหาย 1 ราย (เพชรบูรณ์ หญิง 1 ราย)
ยังคงมีสถานการณ์ 18 จังหวัด รวม 80 อำเภอ 447 ตำบล 2,385 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 104,491 ครัวเรือน ดังนี้
1.สุโขทัย น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสำโรง อำเภอคีรีมาศ และอำเภอเมือง ระดับน้ำลดลง
2. พิษณุโลก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังทอง อำเภอพรหมพิราม และอำเภอบางระกำ ระดับน้ำลดลง
3. เพชรบูรณ์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ติดแม่น้ำป่าสัก อำเภอเมือง ระดับน้ำลดลง
4.พิจิตร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบึงนาราง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพทะเล และอำเภอสามง่าม ระดับน้ำลดลง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร
5. ขอนแก่น น้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแวงน้อย อำเภอแวงใหญ่ อำเภอโคกโพธิ์ชัย อำเภอชนบท อำเภอมัญจาคีรี อำเภอโนนศิลา อำเภอพระยืน อำเภอบ้านแฮด และอำเภอบ้านไผ่ ระดับน้ำลดลง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
6.ชัยภูมิ น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ ระดับน้ำลดลง
7. นครราชสีมา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสูงเนิน อำเภอโนนสูง อำเภอเมือง อำเภอพิมาย อำเภอปักธงชัย อำเภอโนนไทย อำเภอคง อำเภอจักราช และอำเภอแก้งสนามนาง ระดับน้ำลดลง
8. อุบลราชธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง และอำเภอวารินชำราบ ระดับน้ำลดลง จุดอพยพอำเภอเมือง 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลในเมือง และตำบลแจระแม
รวม 121 ครัวเรือน 467 คน
9.นครสวรรค์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอโกรกพระ และอำเภอพยุหะคีรี ระดับน้ำลดลง
10. อุทัยธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมือง ระดับน้ำลดลง
11. ชัยนาท น้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมโนรมย์ อำเภอวัดสิงห์ อำเภอเนินขาม อำเภอหันคา อำเภอสรรคบุรี อำเภอสรรพยา อำเภอเมือง และอำเภอหนองมะโมง ระดับน้ำลดลง
12. ลพบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอชัยบาดาล และอำเภอบ้านหมี่ ระดับน้ำลดลง
13. สระบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังม่วง อำเภอแก่งคอย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมือง อำเภอเสาไห้ อำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ อำเภอดอนพุด อำเภอหนองแซง อำเภอวิหารแดง และอำเภอหนองแค ระดับน้ำลดลง
14. สุพรรณบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ระดับน้ำลดลง
15. สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมือง และอำเภอค่ายบางระจัน ระดับน้ำลดลง
16. อ่างทอง น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก อำเภอวิเศษชัยชาญ และอำเภอสามโก้ ระดับน้ำลดลง
17. พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 9 ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง และอำเภอบางปะหัน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผงซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำลดลง
18. ปทุมธานี น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง และอำเภอสามโคก
ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ สำหรับประชาชนสามารถแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784”