ปภ.รายงานเกิดวาตภัยใน 37 จังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือ
วันนี้ (30 เม.ย. 65) เวลา 10.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงาน
ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 28 – 30 เมษายน 2565
ส่งผลให้เกิดวาตภัยในพื้นที่ 37 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ตาก พิจิตร สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี ราชบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ปทุมธานี มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม สกลนคร บุรีรัมย์ ขอนแก่น นครราชสีมา ยโสธร อุดรธานี ชัยภูมิ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ จันทบุรี ระยอง สระแก้ว และปราจีนบุรี รวม 152 อำเภอ 447 ตำบล 1,114 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4,988 หลังมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย (กาฬสินธุ์) ผู้เสียชีวิต 1 ราย (สุรินทร์) แยกเป็น
ภาคเหนือ 9 จังหวัด รวม 35 อำเภอ 83 ตำบล 186 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 882 หลัง ได้แก่
- แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย รวม 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 33 หลัง
- แพร่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังชิ้น และอำเภอลอง รวม 10 ตำบล 31 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 194 หลัง
- ตาก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงา อำเภอท่าสองยาง และอำเภอเมือง รวม 5 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 140 หลัง
- พิจิตร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพทะเล อำเภอตะพานหิน อำเภอทับคล้อ อำเภอดงเจริญ และอำเภอบางมูลนาก รวม 12 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 84 หลัง
- สุโขทัย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งเสลี่ยง อำเภอศรีสัชนาลัย อำเภอเมือง อำเภอบ้านด่านลานหอย และอำเภอสวรรคโลก รวม 7 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 107 หลัง
- อุตรดิตถ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพิชัย อำเภอน้ำปาด อำเภอตรอน อำเภอทองแสนขัน และอำเภอฟากท่า รวม 8 ตำบล 28 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 89 หลัง
- กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอพรานกระต่าย และอำเภอไทรงาม รวม 11 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 29 หลัง
- พิษณุโลก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอวังทอง อำเภอวัดโบสถ์ และอำเภอพรหมพิรามรวม 19 ตำบล 34 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 101 หลัง
- ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเถิน อำเภอสบปราบ อำเภอแม่พริก อำเภอเกาะคา และอำเภอแม่เมาะ รวม 6 ตำบล 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 105 หลัง
ภาคกลาง 10 จังหวัด รวม 45 อำเภอ 145 ตำบล 276 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 996 หลัง ได้แก่
- พระนครศรีอยุธยา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอภาชี อำเภอนครหลวง อำเภอบางปะหัน อำเภอบางซ้าย อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภออุทัย และอำเภอท่าเรือ รวม 55 ตำบล 112 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 698 หลัง
- สระบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองโดน อำเภอพระพุทธบาท อำเภอเสาไห้ อำเภอเมือง อำเภอดอนพุด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอบ้านหมด อำเภอมวกเหล็ก อำเภอวิหารแดง และอำเภอหนองแค รวม 35 ตำบล 76 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 103 หลัง
- ลพบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอท่าวุ้ง อำเภอชัยบาดาล อำเภอลำสนธิ และอำเภอพัฒนานิคม รวม 20 ตำบล 32 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 74 หลัง
- สิงห์บุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง และอำเภอท่าช้าง รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 23 หลัง
- ชัยนาท เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวัดสิงห์ รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5 หลัง
- อุทัยธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอห้วยคต และอำเภอบ้านไร่ รวม 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 21 หลัง
- ราชบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากท่อ อำเภอสวนผึ้ง และอำเภอเมือง รวม 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7 หลัง
- อ่างทอง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอป่าโมก อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอสามโก้ อำเภอโพธิ์ทอง อำเภอเมือง และอำเภอแสวงหา รวม 16 ตำบล 30 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 54 หลัง
- สุพรรณบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า อำเภออู่ทอง และอำเภอด่านช้าง รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 11 หลัง
- ปทุมธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอคลองหลวง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 จังหวัด รวม 67 อำเภอ 209 ตำบล 619 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3,102 หลัง ได้แก่
- มุกดาหาร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมือง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 10 หลัง
- กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสมเด็จ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
- มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงยืน อำเภอแกดำ อำเภอนาเชือก อำเภอยางสีสุราช อำเภอกันทรวิชัย อำเภอเมือง อำเภอวาปีปทุม อำเภอนาดูน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย และอำเภอโกสุมพิสัย รวม 37 ตำบล 135 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 436 หลัง
- สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเจริญศิลป์ และอำเภอสว่างแดนดิน รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง
- บุรีรัมย์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมือง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
- ขอนแก่น เกิดวาตภัยในพื้นที่ 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแวงใหญ่ อำเภอหนองสองห้อง อำเภอหนองเรือ อำเภอบ้านไผ่ อำเภอพล อำเภอแวงน้อย อำเภอชนบท อำเภอชุมแพ อำเภอภูเวียง อำเภอเวียงเก่า อำเภอโนนศิลา อำเภอเขาสวนกวาง อำเภอบ้านฝาง อำเภอสีชมพู และอำเภอซำสูง รวม 63 ตำบล 237 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,514 หลัง
- นครราชสีมา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพิมาย อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอด่านขุนทด อำเภอบัวใหญ่ อำเภอสีดา อำเภอโนนไทย และอำเภอเทพารักษ์ รวม 18 ตำบล 44 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 66 หลัง
- ยโสธร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทรายมูล อำเภอเมือง อำเภอกุดชุม อำเภอไทยเจริญ และอำเภอเลิงนกทา รวม 17 ตำบล 50 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 174 หลัง
- อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านผือ อำเภอสร้างคอม และอำเภอศรีธาตุ รวม 6 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 26 หลัง
- ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจัตุรัส อำเภอเมือง อำเภอหนองบัวแดง อำเภอแก้งคร้อ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอเทพสถิต อำเภอบำเหน็จณรงค์ และอำเภอคอนสวรรค์ รวม 24 ตำบล 36 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 159 หลัง
- สุรินทร์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขวาสินรินทร์ อำเภอสำโรงทาบ อำเภอศรีขรภูมิ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอสังขะ และอำเภอปราสาท รวม 23 ตำบล 62 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 263 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย (ฟ้าผ่า)
- ศรีสะเกษ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอยางชุมน้อย อำเภอกันทรารมย์ อำเภอเมือง และอำเภอโพธิ์ศรีสุสรรณ รวม 8 ตำบล 26 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 231หลัง
- อุบลราชธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอเหล่าเสือโก้ก และอำเภอเมือง รวม 7 ตำบล 14 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 123 หลัง
- อำนาจเจริญ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอลืออำนาจ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4 หลัง
ภาคตะวันออก 4 จังหวัด รวม 5 อำเภอ 10 ตำบล 33 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 98 หลัง ได้แก่
- จันทบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสอยดาว รวม 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน
- ระยอง เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอปลวกแดง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
- สระแก้ว เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวังน้ำเย็น รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 40 หลัง
- ปราจีนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำภอศรีมหาโพธิ์ และอำเภอกบินทร์บุรี รวม 4 ตำบล 13 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 58 หลัง
ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784”