ปี’66 การเคหะแห่งชาติ เดินหน้ารุกสานต่อโครงการสำคัญเข้มข้น ทั้งบ้านเช่า-สินเชื่อผู้มีรายได้น้อย
การเคหะฯรุกบ้านเช่า – นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า การดำเนินงานในปี 2566 จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น มีการสานต่อโครงการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเคหะสุขประชา ซึ่งเป็นโครงการบ้านเช่า เป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2564-2568) โดยขณะนี้ก่อสร้างโครงการนำร่องและส่งมอบพร้อมทำสัญญาเช่าให้กับผู้ได้สิทธิแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย
รวมทั้งมีการจัดตั้งบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) แล้วเสร็จ โดยมีการเคหะฯ ถือหุ้นใหญ่ 49.0% และกลุ่มผู้ถือหุ้นอีก 6 ราย ล่าสุด จัดทำโครงการต้นแบบบ้านเคหะสุขประชาภายใต้พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 จำนวน 3 พื้นที่ ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชา วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา, โครงการบ้านเคหะสุขประชา ลำลูกกาคลอง 12 จ.ปทุมธานี และโครงการบ้านเคหะสุขประชาธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม
รวมทั้งยังมีนำเสนอพิจารณาให้ความเห็นชอบภายใต้ พ.ร.บ.ร่วมทุน อีก 10 โครงการ ได้แก่ ปทุมธานี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สระบุรี สระบุรี กำแพงเพชร นครสวรรค์ และระยอง
นอกจากนี้ ยังมีโครงการบ้านเคหะสุขเกษม จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโครงการบ้านเช่ารองรับสังคมผู้สูงอายุ จำนวน 90 อาคาร รวมทั้งสิ้น 3,956 หน่วย อีกโครงการหนึ่งคือ โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยและโครงการรับคืนอาคารเช่า ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติ ดำเนินโครงการอาคารเช่าฯ 10 โครงการ พร้อมเข้าอยู่จำนวน 6 โครงการ อยู่ระหว่างเตรียมการบรรจุผู้เช่าใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมี.ค. 2566 นี้
พร้อมกันนี้มีโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยแต่ไม่สามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านธนาคารยังสามารถ เข้าร่วม โดยจะมีคณะกรรมการบริหารการให้สินเชื่อเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย (คบส.) ของการเคหะฯ เป็นผู้พิจารณาให้สินเชื่อกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งตั้งแต่เดือนก.ย. 2563-2565 ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว จำนวน 1,507 ราย เป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป จำนวน 1,321 ราย กลุ่มเปราะบาง จำนวน 186 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 977.24 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2566 มีเป้าหมายให้สินเชื่อกับลูกค้า จำนวน 574 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 381.55 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี เป็นไปตามแนวทางแผนยุทธศาสตร์การเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2570 (ฉบับปรับปรุงปี 2565) ซึ่งการเคหะฯ ยุคใหม่จะไม่ได้เพียงแค่สร้างที่อยู่อาศัย แต่จะดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยไปพร้อมกันด้วย
มากไปกว่านั้นยังให้ความสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถขององค์กร ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งปรับเปลี่ยน ความคิดของผู้ปฏิบัติงานให้หันมาใส่ใจในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนมากขึ้น