วันที่ 19 ธ.ค. 65 เวลา 14.00-16.30 น.ที่ สภ.สองพี่น้อง ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรีพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่าได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม สภ.สองพี่น้อง ภ.จว.สุพรรณบุรี ที่ทำการมีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีจุดคัดกรองโรค มีหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ไว้บริกา มีที่จอดรถสำหรับประชาชนที่มาติดต่อราชการ ไว้เพียงพอ จากนั้นเดินเยี่ยมชมห้องเก็บอาวุธปืนของ สภ.สองพี่น้อง ซึ่งได้นำนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการเก็บรักษาและการเบิกใช้อาวุปืนของทางราชการไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงห้องเก็บอาวุธปืน ของสถานี (ARMS ROOM) โดยได้จัดทำระบบควบคุมการเบิกจ่ายอาวุธปืนด้วยระบบ QR Code และ ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) และกล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว (AI) เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในห้องเก็บรักษาอาวุธปืน สามารถตรวจสอบอาวุธปืนที่ถูกเบิกใช้ผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ
โดยในการนี้ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่ข้าราชการตำรวจ สภ.สองพี่น้อง ได้แก่ (1.) น้ำดื่ม จำนวน 20 แพ็ค (2.) ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 20 ถุง (3.) หน้ากากอนามัย จำนวน 500 อัน (4.) เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 5 ลัง (5.) เครื่องดืมคาราบาวแดง จำนวน 4 ลัง (6.) มาม่า จำนวน 2 ลัง (7.) น้ำตาล จำนวน 10 กิโลกรัม (8.) ผลไม้กระป๋อง จำนวน 1 ลัง (9.) นมจืด จำนวน 2 ลัง (10.) น้ำมะพร้าว จำนวน 2 ลัง (11.) เชลไดร์ จำนวน 1 ลัง (12.) รองเท้าผู้ชาย จำนวน 90 คู่ (13.) พัดลม 14 นิ้ว จำนวน 3 ตัว
จากนั้นเป็นประธานในการประชุม “ขับเคลื่อนการบริหารราชการตามนโยบายของ ผบ.ตร. ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.สองพี่น้อง”โดยมี พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี,พ.ต.อ.ธนากร สุวรรณศรี รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี,พ.ต.อ.เกียรติชัย เกิดโชค ผกก.สภ.สองพี่น้อง,คณะ กต.ตร.สภ.สองพี่น้องและข้าราชการตำรวจ สภ.สองพี่น้อง รอรับการตรวจและเข้าร่วมการประชุม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่า ได้กำชับให้ปฏิบัติดังนี้ 1. นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม 2. ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ 3. การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443”
3.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง, 3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ, 3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ3.4 “3 S” Smart Smile Strong
4. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ 5.กำชับการให้นำแนวทางยกระดับการให้บริการประชาชนในสถานีตำรวจ ตามนโยบาย ผบ.ตร. มาพัฒนายกระดับการบริการประชาชนในสถานีตำรวจ 6. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด 7. กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ
8. กรณีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนรำคาญ จากการแข่งรถในทาง สถานบันเทิงเปิดเพลงเสียงดัง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ใจที่จะแก้ปัญหาการร้องเรียนดังกล่าว อย่าปล่อยปละละเลย จนเกิดการร้องเรียนซ้ำซาก และอย่าให้มีการนำเสนอข่าวว่า “ตำรวจไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน” 9. ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด 10. ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป
11. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสายงาน สำรวจจัดทำข้อมูลบุคคลในพื้นที่ที่มีอาการทางจิต และมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมประสานความร่วมมือหน่วยงานอื่น เฝ้าระวังบุคคลเหล่านี้ มิให้ก่อเหตุอาชญากรรม 12.ให้หัวหน้าสถานีมีการตรวจคลังอาวุธและเรียกตรวจสอบอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่เบิกไปใช้เป็นระยะ เพื่อมิให้เกิดการนำเอาอาวุธปืนหลวง ไปขาย หรือจำนำ หรือตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น ก่อเหตุอาชญากรรม 13.เน้นย้ำให้มีความรักความสามัคคีในองค์กร หมู่คณะ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง