สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 ราชบุรี ผลักดันการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แบบยั่งยืน ในกลุ่มแปลงใหญ่ผัก หมู่ 13 อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 นางธัญธิตา บุญญมณีกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จ.ราชบุรี กล่าวว่า กลุ่มแปลงใหญ่ผักบ่อสุพรรณ ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีนายปฐมพงศ์ จาตุพิศาลพงษ์ เป็นประธานกลุ่ม ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 58 ราย พื้นที่ 230 ไร่ ผลิตผักกินใบ 23 ชนิด ผักกินผล 17 ชนิด โดยแต่เดิมในปี 2555 ผู้นำชุมชนได้นำนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงของหน่วยงานภาครัฐมาจัดทำโครงการ “ผักสวนครัวรั้วกินได้” เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนเริ่มต้น 10 ราย ขยายผลเป็น 20 ราย ผลผลิตมากขึ้น เกิดผลผลิตล้นตลาดจึงได้ประสานหน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือโดย ธ.ก.ส.และมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ส่งเสริมการปลูกผักอินทรีย์ และจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสุพรรณดอนศาลเจ้า มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) มุ่งเน้นแนวทางการผลิตเกษตรอินทรีย์ สมาชิกเริ่มต้น 20 ราย เกิดรายได้ที่ชัดเจน และเป็นที่พอใจของสมาชิก
ต่อมา มีการทำโครงการ “ยืมอนาคต สร้างอนาคต” โดยการให้สมาชิกที่ยากจนซื้อที่ดินของชุมชนเพื่อปลูกผักอินทรีย์ และหักเงินค่าที่ดินจากค่าขายผัก ภายหลังเกิดปัญหาผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดจึงเกิดการสร้างเครือข่ายขึ้น ต่อมาปี 2561 ได้เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ กลุ่มแปลงใหญ่ผัก หมู่ 13 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการกลุ่มที่เข้มแข็ง การจัดซื้อปัจจัยการผลิต สร้างอำนาจต่อรองการตลาด และขยายช่องทางการตลาดมากขึ้น วางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน และในปี 2562 ได้จดทะเบียนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แปลงใหญ่บ่อสุพรรณ และบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่โดยเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ประกอบด้วย 7 วิสาหกิจชุมชน โดยส่งผลผลิตไปยังตลาดโรงพยาบาล 2 แห่ง ได้แก่ รพ.เจ้าพญายมราช และรพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 พร้อมทั้งส่งไปยังบริษัทต่างๆ จุดเด่นของกลุ่มแปลงใหญ่คือ มีมาตรฐานออร์แกนิกไทยแลนด์จากกรมวิชาการเกษตร และยังมีวิธีการเพาะปลูกที่ทำให้ผักมีคุณภาพ ซึ่งความรู้เรื่องการผลิตผักอินทรีย์ และด้านการใช้สารชีวภัณฑ์ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในพื้นที่ทุกระดับตั้งแต่ สำนักงานเกษตรอำเภอสองพี่น้อง สำนักงานเกษตร จ.สุพรรณบุรี และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จ.ราชบุรี เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากความรู้ทางวิชาการแล้ว ยังมีการส่งเสริมและให้คำแนะนำในการบริหารจัดการแปลงใหญ่ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต มีการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งยังส่งเสริมการตลาด โดยใช้ระบบตลาดนำการผลิต นอกจากนี้ยังได้พัฒนาคุณภาพสินค้าโดยได้นำการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) มาส่งเสริมกับเกษตรกรแปลงใหญ่แห่งนี้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรแปลงใหญ่ผักกลุ่มนี้ได้รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS จำนวน 60 ราย และมาตรฐานอินทรีย์ Organic Thailand 31 ราย มาตรฐาน GAP 6 ราย และมีการตลาดที่ดีเยี่ยม มีการวางแผนการผลิตโดยใช้ระบบตลาดนำการผลิต สามารถรวมกันผลิตเพื่อสร้างอำนาจต่อรองราคาและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายได้มากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลมีแผนการดำเนินงานโครงการด้านเกษตรอินทรีย์กว่า 200 โครงการ งบประมาณ 1.9 พันล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้ได้ไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านไร่ ภายในปี 2565.