สุพรรณบุรี สาวใหญ่ สุดเซ็ง กดโอนเงินผิดบัญชี 3 หมื่น สุดซวย ไม่ได้เงินคืน อีกฝั่งอ้างเอาเงินไปปิดยอดรถแล้วหน้าตาเฉย โดยท้าทายอยากได้คืนให้ไปแจ้งความ
26 ม.ค. 66 – น.ส.เณาวรัตน์ (ขอสงวนนามกลุล) อายุ 48 ปี ชาว ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ได้โอนเงินผิดบัญชี แต่เจ้าของบัญชีที่โอนเงินผิดไม่คืนเงิน กับท้าทายให้แจ้งความ
น.ส.เณาวรัตน์ กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 65 เวลา 13.50 น. ตนได้โอนเงินค่าชำระสินค้า จำนวน 30,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ให้กับ บุคคลท่านหนึ่ง ใน สาขาบางขุนเทียน แต่ดันกดหมายเลขผิด เงินไปเข้าบัญชีของ ชาว จ.พะเยา โดยตนก็ไม่ได้ตรวจสอบ
จนกระทั่งเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน บุคคลที่ตนจะโอนเงินให้ ได้โทรศัพท์มาถามว่า โอนเงินมายัง ตนจึงตรวจสอบสลิปบัญชี กลับพบว่า ได้โอนผิดไปให้ ชาว จ.พะเยา จึงได้รีบโทรแจ้งอายัดบัญชีธนาคารสาขา ที่โอนเงินผิด ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ใน อ.สองพี่น้อง เพื่อทำการอายัดบัญชี แต่ไม่ทัน และให้มีการไปตรวจสอบกับธนาคารสำนักงานใหญ่ ตนจึงได้โทรไปที่ CALL CENTER เพื่อจะทำเรื่องไปแจ้งความ
ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค. 65 ตนได้รับหนังสือจากธนาคารฯ สำนักงานใหญ่ว่า ไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของบัญชีได้ ทำให้ตนต้องหาข้อมูลจากเจ้าของบัญชีที่โอนผิดด้วยตนเอง จนทราบว่า เป็น น.ส.นภัค ชาว จ.พะเยา และได้ติดต่อกลับไปเพื่อขอเงินคืน
แต่ได้รับการปฎิเสธ อ้างว่า นำเงินไปปิดค่างวดรถหมดแล้ว และยังท้าทายให้ไปแจ้งความ ตนจึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง ในข้อหา ยักยอกทรัพย์ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ น.ส.นภัค ยังเพิกเฉย
น.ส.เณาวรัตน์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์อย่างมากในชีวิต และอยากขอฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ จะโอนเงินให้ใครควรดูชื่อเจ้าของบัญชีที่เราจะโอนก่อนว่าถูกต้องหรือเปล่า หลายๆครั้ง แต่เนื่องจากวันนั้นตนมือไวไปหน่อย จึงโอนผิดบัญชี เพราะความรีบร้อน
ส่วนเจ้าของบัญชีปลายทางที่ได้รับโอนเงิน ซึ่งไม่ใช่เงินของตัวเองควรมีจิตสำนึกและเช็กดูว่าเงินที่เข้าบัญชีมาจากไหน และได้นำเงินไปใช้จนหมด แถมยังปฎิเสธความรับผิดชอบ พร้อมยังท้าทายถ้าอยากได้เงินคืนให้ไปแจ้งความ
ขณะนี้ เอกสารเกี่ยวกับการธนาคารยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งตนก็ยื่นเรื่องไปนานแล้ว เพราะต้องมีเอกสารบางส่วนจากธนาคาร เพื่อนำไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าจริงๆ แล้วธนาคารควรจะทำอะไรให้ไวกว่านี้ เช่นอายัดเงินในบัญชีที่เราโอนผิดไปได้ ที่สำคัญเป็นการโอนผิดธนาคารเดียวกัน ทางธนาคารควรจะดำเนินการให้ไวกว่านี้ และสามารถตรวจสอบได้
ล่าสุด พนักงานสอบสวน ได้ทำหนังสือไปที่ธนาคาร เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลบัญชีเงินฝากและอายัดเงินของ น.ส.นภัค ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 65 จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจากธนาคารแต่อย่างใด
น.ส.เณาวรัตน์ กล่าวอีกว่า ก็ได้แต่ขอภาวนา ให้ผู้ที่นำเงินตนมาใช้ นำเงินมาคืน จำนวน 30,000 บาท จะขอบคุณมาก เพราะเราก็จำเป็นต้องใช้เงิน มีภาระหน้าที่ อยากให้นำเงินมาคืนตน