นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการ จ.สุพรรณบุรี แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (8 เม.ย.) ว่าได้รับรายงานการพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่ม 4 ราย ซึ่งกลุ่มนี้เกียวข้องกับการท่องเที่ยวแพลอยน้ำที่ จ.กาญจบุรี
เหตุนี้ทำให้ตัวเลขของการระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ดังกล่าวเพิ่มมาอยู่ที่ 37 คน ซึ่งกลุ่มนี้มีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.เมืองสุพรรณบุรี ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ตั้งแต่ระลอกแรกของ จ.สุพรรณบุรี เพิ่มมาอยู่ที่ 69 คน และรักษาหายไปแล้ว 33 คน ส่วนผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ 36 คนยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช และโรงพยาบาลสมเด็๗พระสังฆราช องค์ที่ 17 อ.สองพี่น้อง
หากหลังจากนี้มีผู้วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สุพรรณบุรี ก็มีแผนรองรับ คือ การสำรองพื้นที่ในโรงพยาบาลอู่ทอง
เดินหน้าตรวจโควิด-19 เชิงรุก
นายวรงค์ รุ่งเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี เผยว่า กระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความสำคัญในการปฏิบัติการค้นหาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในเชิงรุก ซึ่งหากสามารถพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ได้เร็ว ก็จะสามารถหยุดการแพร่ระบาดได้เร็วเช่นกัน เพราะถ้าหากช้า โอกาสในการแพร่ระบาดของโรคก็จะเพิ่มขึ้น จึงได้จัดทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกไปค้นหาผู้ป่วยในชุมชนต่างๆ
นายแพทย์สาธารณสุข จ.สุพรรณบุรี กล่าวต่อไปว่า วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ (8-9 เม.ย.) จมการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกที่ตลาดพอเพียง ซึ่งกลุ่มที่เชิญมาตรวจเป็นกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างจะชัดเจนตามเงื่อนไขของไทม์ไลน์ ซึ่งมีทั้งพนักงานขายของทั่วไป พนักงานศูนย์อาหาร พนักงานเสริฟอาหาร ในห้างสรรพสินค้า พนักงานฟู้ดแพนด้า สาวพีอาร์ แม่ค้าตลาดขุนไกร และบุคลากรของเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และพระสงฆ์วัดไชนาวาส ประมาณ วันละไม่เกิน 350 คน โดยมีนายศรีธรรม ราชแก้วนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไปร่วมให้การสนับสนุน
มงคล สว่างศรี / Sanook News
สถานที่กักตัวเริ่มเต็ม
ส่วนเรื่องการกักตัวเริ่มมีปัญหาเรื่องของจำนวนของผู้ที่เสี่ยงเมื่อมีกลุ่มเสี่ยงมากขึ้นจำนวนคนก็กระจายมากขึ้น สถานการณ์ที่โรงแรมกีฬา ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวในท้องถิ่น (Local Quarantine) ของ จ.สุพรรณบุรี มีผู้กักตัวทั้งหมด 52 รายในขณะที่ห้องพักมีอยู่ 52 ห้องและใช้ไป 50 ห้องเหลือเพียง 2 ห้อง
ส่วนผู้ป่วยที่พบล่าสุดทำงานอยู่ที่เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี เทศบาลตำบลท่าระหัด และการไฟฟ้าสุพรรณบุรี ซึ่งไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มแพ และก็มากระจายแพร่เชื้อกัน
ห้ามดื่มสุราในร้าน-ปิดไม่เกิน 21.00 น.
นอกจากนี้ มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 หลังจากที่ได้ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อเมื่อวันพุธ (7 เม.ย.) เห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี เปลี่ยนไปเยอะ มีการกระจายของโรคไปหลายจุด ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อมีมติให้เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการมากขึ้น เฉพาะใน อ.เมืองสุพรรณบุรี โดยห้ามนั่งดื่มสุราในร้านอาหารสถานบริการ และให้ปิดร้านไม่เกิน 21.00 น. รวมถึงกิจกรรมอื่นที่เสี่ยงต่อการติดโรค เช่น โต๊ะสนุกเกอร์ สปา บ้านลม บ้านบอล
คำสั่งนี้จะมีผลในวันศุกร์ (9 เม.ย.) และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี อยากให้ใส่ใจในเรื่องมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันภาครัฐก็พยายามหากลุ่มเสี่ยงโดยการตรวจเชิงรุกที่ตลาดพอเพียงด้วยการเชิญคนหลาย ๆ กลุ่มมาตรวจว่ามีเชื้อหรือไม่ โดยมีเป้าหมาย 3,000 ราย ถ้าตรวจแล้วไม่เจอคนติดเชื้อเพิ่มเติม ก็วางใจได้ว่าสามารถควบคุมโรคได้เกือบหมดแล้ว แต่ถ้าหากพบผู้ติดเชื้ออีก เจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งดำเนินการกันต่อไป