เผยแพร่:
ปรับปรุง:
กาญจนบุรี – อธิบดีฯ น้ำบาดาลลงพื้นที่ให้กำลังใจ จนท.และติดตามความคืบหน้าติดตั้งเครื่องกรองน้ำให้ชาวบ้านทดลองดื่มน้ำจากพุโซดา คาดอาทิตย์หน้าแล้วเสร็จ พร้อมดื่มน้ำดิบโชว์อีกครั้ง ยันหวานและซ่าเหมือนโซดาจริง
จากกรณีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เจาะบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ในที่สุดสามารถเจาะบาดาลในพื้นที่หมู่ 12 บ้านสระตาโล ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย ได้ จำนวน 3 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ จำนวน 52 ลบ.ม./ชม. และที่หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจาอีก จำนวน 2 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 66 ลบ.ม./ชม.คิดปริมาตรรวม 1,700,000 กว่า ลบ.ม./ปี ประชากรจะได้รับประโยชน์ จำนวน 15 หมู่บ้าน 7,000 กว่าครัวเรือน พื้นที่เกษตร 6,000 ไร่ แต่ปรากฏว่าบ่อบาดาลที่ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 12 บ้านสระตาโล ต.บ่อพลอย กลับมีรดชาติออกหวานและซ่าคล้ายโซดา ที่สร้างความฮือฮาให้แก่คนไทยทั้งประเทศตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.พ.) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วยเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล นายบรรจง พรมจันทร์ ผอ.สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาล นายวิทยา มีนิสัย ผู้อำนวยสำนักควบคุมกิจการน้ำบาดาล ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจ และติดตามความคืบหน้าการดำเนินการติดตั้งกรองน้ำ รวมทั้งสำรวจพุโซดาที่ตั้งงอยู่หมู่ 12 ต.บ่อพลอย
โดยมีนายทะนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ให้การต้อนรับ
สำหรับบรรยากาศตลอดทั้งวันที่ผ่านมาเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ผลไม้ รวมทั้งแผงขายลอตเตอรี่เพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ด
ขณะเดียวกัน มีประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดกาญจนบุรี และต่างจังหวัดเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเป็นหมู่คณะ และครอบครัว ทุกคนต่างถ่ายภาพหมู่ รวมทั้งเซลฟี่คู่กับพุน้ำที่พุ่งสูงกว่า 10 เมตรเอาไว้เป็นที่ระลึก ขณะเดียวกันมี พระสงฆ์เดินทางมาชมเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้นำคณะไปตรวจสอบพุโซดาที่มีความลึก 224 เมตร พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่นำน้ำขึ้นมาทดลองดื่ม นอกจากคณะจะทดลองดื่มแล้ว นายศักดิ์ดา ยังได้ทดลองดื่มด้วยตนเองเองอีกด้วย ซึ่งทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันเช่นเคยว่า น้ำมีรดชาติหวานนิดๆ ซ่าหน่อยๆ เหมือนโซดาเปิดขวดค้างคืนที่ไม่ได้แช่
โดยนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กล่าวยืนยันว่าน้ำพุโซดาสามารถดื่มได้ แต่จะต้องดื่มในปริมาณที่ไม่มากนัก ตรวจสอบคุณภาพน้ำแล้วพบว่าน้ำข้างล่างไม่มีเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากไม่มีออกซิเจน เพราะฉะนั้นเวลาน้ำพุขึ้นมาจึงไม่มีเชื้อโรค แต่จะมีแร่สนิมเหล็กอยู่บ้างแต่เราดื่มไม่มาก เมื่อดื่มไม่มากก็ไม่มีโทษต่อร่างกาย ขอบอกว่ารสชาติซ่าจริงๆ และหวานมาก
ส่วนประชาชนมาทดลองดื่มได้เมื่อไหร่นั้นขอหาหรือกับทางท้องถิ่นก่อน เกรงจะเกิดความวุ่นวาย และอาจจะดื่มในปริมาณมาก เพราะทุกคนต่างรู้สึกตื่นเต้น ดังนั้น จึงขออนุญาตไปหารือกับทางท้องถิ่นและทางจังหวัดกาญจนบุรีอีกครั้งหนึ่งว่าจะช่วยกันทำอย่างไร สำหรับตู้น้ำดื่มที่กำลังดำเนินการติดตั้งเพื่อให้ประชาชนได้มาดื่มคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าคงจะแล้วเสร็จ