แม่พาลูกแจ้งความ หลังลูกสาว 8 ขวบ ถูกชายวัย 70 ปี ที่เด็กเรียกเป็น “ปู่” ทำอนาจารจนเยื่อพรหมจารีขาด ช็อกซ้ำ ลูกชายวัย 11 ถูกหลานชายปู่ให้อมนกเขา
เวลา 09.00 น. วันที่ 27 กันยายน 2565 ที่ สภ.ด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.ท.เจษฎา พานิชวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) ได้เชิญนางปราง อายุ 35 ปี (แม่ของเด็ก) มาสอบปากคำเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้มีการมาแจ้งความว่า ลูกสาววัย 8 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 และลูกชายวัย 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 ถูกนายเล็ก อายุ 70 ปี และนายเอนก อายุ 25 ปี กระทำอนาจารล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งทั้งสองมีศักดิ์เป็นตาและน้องชายต่างบิดาของแฟนเก่า ซึ่งเลิกกันไปได้ประมาณ 2 ปี ส่วนลูกทั้ง 2 คน เป็นลูกของตนที่เกิดกับสามีเก่าอีกคนที่เลิกกันไป 7-8 ปี ซึ่งได้นำเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลด่านช้าง ทราบผลว่า ด.ญ.วัย 8 ขวบ มีร่องรอยเยื่อพรหมจารีฉีกขาด ส่วน ด.ช.วัย 11 ขวบ ไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศที่ทวารหนักแต่อย่างใด
จากการสอบสวนเบื้องต้น นางปราง กล่าวว่า นายเล็ก เป็นตาของอดีตแฟนตน และเป็นตาของนายหนึ่ง หลังจากแฟนทิ้งไปก็มาอาศัยอยู่กับนายหนึ่ง 2 คน สนิทจนเป็นเหมือนพี่น้องกัน จนนายหนึ่งมีแฟนและย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ นายหนึ่งได้ขอพาลูกทั้ง 2 ของตนไปส่งเสียเลี้ยงดู จนกระทั่งปี 63 ได้พาหลานทั้ง 2 คนกลับมาอาศัยอยู่บ้านใน ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง ของนายเล็ก (ตา) ซึ่งเด็กทั้ง 2 จะเรียกว่าปู่เล็ก ต่อมาตนได้งานที่ร้านขายข้าวมันไก่ จึงย้ายกลับมาเพื่อได้อยู่ใกล้ลูก แต่แยกไปพักที่ร้าน ไม่ได้อยู่กับลูก เพราะต้องตื่นมาทำงานเช้าทุกวัน กระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ก.ย.) ขณะตนขายข้าวอยู่ ปู่เล็ก ได้เอาลูก 2 คนมาคืนไว้ที่ร้าน และบอกว่าไม่ต้องกลับไปแล้ว ตนสังเกตเห็นลูกเศร้าซึม พอเวลาลูกค้าว่างๆ จึงถามลูกว่าหนูเป็นอะไร โดนอะไรมา ครั้งแรกลูกไม่บอก เลยกล่อมว่าไม่ต้องกลัว แม่คุ้มครองหนู ปกป้องหนู ลูกสาวจึงบอกว่า โดนปู่เอานิ้วล้วง โดนดูดหน้าอก และพยายามเอาอวัยวะเพศสอดใส่ แต่ใส่ไม่เข้า จึงพามาแจ้งความไว้ก่อน ทางตำรวจจึงส่งไปให้ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลตรวจคือลูกสาวเยื่อพรหมจารีฉีกขาด ถูกล่วงละเมิด และจากการถามลูกสาว ลูกบอกว่า นายหนึ่ง ได้ให้อมนกเขาด้วย 1 ครั้ง ส่วนลูกชายอีกคนที่อายุ 11 ขวบ ถามว่าถูกทำอะไรบ้างไหม ลูกก็บอกว่าถูกน้าหนึ่งให้อมนกเขาช่วงก่อนบ่อยครั้งมาก มาช่วงหลังจะมีนานๆ ครั้ง พอตนทราบเรื่องจึงพามาแจ้งความ
ทางด้าน นายหนึ่ง ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเดินทางมาพบตำรวจ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความที่เด็กผู้ชายเขาโตแล้ว แล้วก็เขามีการเสพสื่อโซเชียล เราก็เลยบอกว่าถ้าจะนั่งทำอะไรให้ไปทำบนที่นอน หลายๆครั้งเราก็จะเตือนเรื่องหลานผู้ชายกับหลานผู้หญิง ก็ให้แยกกันอยู่เพราะโตแล้ว จะไม่ให้เห็นของกันและกัน คือเราเห็นน้องเขาเสพสื่อตรงนี้ ไม่ดีก็บอกให้ไปคลุมโปงบนที่นอน อย่าให้น้องสาวเห็น รวมถึงการชอบแก้ผ้าเดินในบ้าน ก็สอน บอกให้น้องสาวอยู่ในห้องก่อน รอพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เราขอรับเลี้ยงเด็ก 2 คนนี้เป็นเหมือนหลานเลย ส่วนเรื่องล่วงละเมิดเราไม่ปฏิเสธ เพราะน้องฝั่งผู้หญิงเราสังเกตพอจะรู้เรื่องตั้งแต่สิงหาคม แต่น้องไม่มีอาการร้องไห้ ซึมเศร้า ยังร่าเริง จึงนึกว่าหลานพูดเล่น เลยไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่อยากให้เกิดรอยร้าวในครอบครัวถ้าไม่เป็นเรื่องจริง แต่ก็พยายามถามทุกวันว่าเวลาไปนอนกับคุณตา ว่า ตาทำอะไรหรือเปล่า เราก็ถามตลอด แต่ในส่วนน้องผู้ชาย เราปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ เราสนิทกับแม่น้อง เราเชื่อใจและสนิทกันมาก
ขณะที่ ตาเล็ก กล่าวว่า ตนเลี้ยงเด็กๆ มาตั้งแต่เล็ก คงไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน พาอาบน้ำอาบท่า เลี้ยงมาแต่เด็ก ถ้าทำคงทำตอนนั้นแล้ว มาทำตอนนี้ได้ยังไง เลี้ยงมันตั้งแต่แม่มาทิ้งไว้ ยืนยันไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา
ขณะที่ตำรวจได้ประสาน พม.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าสอบปากคำเด็ก และในช่วงบ่ายได้พาเด็กทั้ง 2 คนไปสอบสวนเพิ่มเติมร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน โดยเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ แต่ทางตำรวจหลังจากสอบสวนพยานและมีผลการตรวจของแพทย์ ได้ทำบันทึกแจ้งของกล่าวหา ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี จากนั้นนำตัวทั้ง 2 คนไปขออำนาจศาลจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี
ด้าน พ.ต.อ.ยิ่งยส เขินอำนวย ผกก.สภ.ด่านช้าง กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางผู้บังคับบัญชามีความห่วงใยเป็นอย่างมาก และได้สั่งการลงมาให้รีบดำเนินการสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเบื้องต้นได้ส่งตัวเด็กไปตรวจที่ รพ.ด่านช้าง แล้ว และได้นำตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายมาแจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดสุพรรณบุรีฝากขังแล้ว.