อาชญากรรม
โจรใจบาปหลอกพระมาขอบวชให้แม่ ก่อนย่องงัดตู้บริจาควัด
วันเสาร์ ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 19.52 น.
คลิกที่นี่
ที่ วัดเทพคีรีวงศาราม หรือวัดเขาชานหมาก ตำบลจระเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อุปกรณ์งัดวิหารหลวงปู่ครื้น อดีตเจ้าอาวาสวัดสังโฆ ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านเขาชานหมาก และชาวบ้านทั่วไป ภายในวิหารพบตู้บริจาค จำนวน 4 ใบ ถูกงัดฝาเปิดได้รับความเสียหาย และพบกรรไกรตัดหญ้าที่คนร้ายใช้งัดตู้บริจาคตกอยู่ 1 อัน ตรวจสอบภายในตู้บริจาค พบธนบัตรที่ญาติโยมบริจาคหายไปเกลี้ยงตู้ เหลือเพียงเหรียญแค่ไม่กี่บาทอยู่ในตู้บริจาคที่คนร้ายเก็บไปไม่หมด ในวิหารยังพบเหรียญ 1บาท เหรียญ 10 บาท ตกหล่นเรี่ยราดไปทางหน้าต่างซึ่งมีร่องรอยการถูกงัดเข้ามา คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ทางหลบหนี
ทางด้านพระมหารุ่งอโนทัย กัลยาโณ เจ้าคณะตำบลจรเข้สามพันและเจ้าอาวาสวัดเทพคีรีวงศาราม เล่าว่าปกติวิหารจะเปิดเวลา 08.00 น. และปิดตอน 18.00 น. โดยพระลูกวัดและเณร จะช่วยกันเก็บตู้บริจาคตามจุดต่างๆ มาเก็บในวิหาร กระทั่งหลังฉันท์ภัตตาหารเช้าเสร็จสามเณรได้เปิดประตูวิหารเพื่อนำตู้บริจาคไปวางตามปกติ เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบว่าตู้บริจาคโดนงัด จึงรีบวิ่งไปบอกอาตมา คาดว่าเงินบริจาคที่คนร้ายได้ไปน่าจะประมาณ 10,000 บาท
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นนายเปี๊ยก อายุ 32 ปี ที่เข้ามาทำทีขอบวชพระโดยบอกว่าแม่ตายอยากจะมาบวชให้แม่ เจ้าอาวาสจึงให้อยู่วัดเพื่อดูพฤติกรรม ได้ประมาณ 4-5 วัน โดยให้ไปตรวจปัสสาวะ และ ตรวจสอบประวัติตามขั้นตอน ก่อนบวช จากนั้นนายเปี๊ยก ได้หายไป 2 วันกระทั่งเช้าวันนี้ ได้มีคนร้ายเข้ามางัดตู้บริจาคขึ้น ก่อนหน้านี้มีคนเคยเตือนอาตมาว่านายเปี๊ยก มีประวัติไม่ดี ชอบขโมยของชาวบ้านแต่อาตมาคิดว่าเขาอาจจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหวังบวชทดแทนพระคุณแม่ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนร้ายมางัดตู้บริจาคของวัดแบบนี้
เช่นเดียวกับชาวบ้านที่มากราบไหว้หลวงพ่อครื้นเล่าให้ฟังว่า เห็นนายเปี๊ยกผู้ต้องสงสัยคนนี้เข้ามาอยู่ที่วัดและได้บอกเจ้าอาวาสไปแล้วว่าบุคคลนี้ไม่น่าไว้ใจชอบลักขโมยของชาวบ้านและมีพฤติกรรมติดยาเสพติด ก่อนหน้าเคยเห็นผู้ต้องสงสัยรายนี้มาอยู่ที่วัดแห่งนี้มาก่อน แล้วก็หายไปสักพักก็เห็นกลับมาอีก ก่อนหน้านี้ที่วัดไม่เคยมีเหตุการณ์ของหายแบบนี้มาก่อนกระทั่งนายเปี๊ยกมาอยู่ที่วัดแห่งนี้ก็เกิดเหตุขึ้นจึงอยากฝากบอกคนร้ายที่งัดตู้บริจาคของวัดว่าให้เอาเงินบริจาคมาคืนวัดมันเป็นบาปกรรม ส่วนคนร้ายจะติดยาเสพติดหรืออะไรก็เรื่องของเขา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อไว้แล้วหากไม่นำเงินมาคืนก็จะต้องถูกตำรวจตามจับดำเนินคดีต่อไป
คลิกที่นี่