สถานการณ์โควิดไทยยังทรงตัว ติดเชื้อใหม่ 2.5 หมื่นราย แต่ละจังหวัดยังติดเชื้อสูง พบ 63 จังหวัดยังติดเชื้อเกินร้อยราย ส่วน 11 จังหวัดสูงสุดเกิน 600 รายทั้งหมด ยอดดับกลับมาสูง 84 ราย พบกลุ่มเสี่ยงทั้งสูงอายุและเด็ก ยังเสียชีวิตต่อเนื่อง เจอเด็ก 6 ขวบ และทวด 104 ปีดับอีก ขณะที่ “ลำพูน” ที่รายงานติดเชื้อน้อย วันนี้เป็น 0
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 51 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 25,821 ราย สะสม 3,529,085 ราย หายป่วย 24,066 ราย สะสม 3,252,350 ราย เสียชีวิต 84 ราย สะสม 24,799 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 251,936 ราย อยู่ใน รพ. 65,668 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 186,268 ราย มีอาการหนัก 1,672 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 644 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 27.6%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 84 ราย มาจาก 44 จังหวัด ได้แก่ กทม. 8 ราย , สมุทรปราการ 6 ราย , ตราด ลพบุรี จังหวัดละ 5 ราย , สมุทรปราการ 4 ราย , มหาสารคาม กาฬสินธุ์ พะเยา สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 3 ราย , นครปฐม ศรีสะเกษ หนองคาย อุตรดิตถ์ แพร่ สตูล สงขลา พัทลุง ระยอง จังหวัดละ 2 ราย และ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ อุดรธานี สุรินทร์ อุบลราชธานี ตาก น่าน ภูเก็ต ระนอง ชุมพร กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานี นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ชลบุรี จันทบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 48 ราย หญิง 36 ราย อายุ 6 – 104 ปี เฉลี่ย 76 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 99%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 2,749 ราย 2.นครศรีธรรมราช 1,537 ราย 3.ชลบุรี 1,293 ราย 4.สมุทรสาคร 955 ราย 5.สมุทรปราการ 870 ราย 6.สงขลา 783 ราย 7.พระนครศรีอยุธยา 664 ราย 8.นนทบุรี 633 ราย 9.ขอนแก่น 624 ราย และ 10.ราชบุรี 611 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 53 จังหวัด คือ ระยอง 606 ราย , ฉะเชิงเทรา 598 ราย , นครปฐม 598 ราย , ร้อยเอ็ด 541 ราย , นครราชสีมา 519 ราย , บุรีรัมย์ 518 ราย , สุพรรณบุรี 452 ราย , พัทลุง 432 ราย , สมุทรสงคราม 407 ราย , อุบลราชธานี 358 ราย , สกลนคร 338 ราย , นครสวรรค์ 330 ราย , อุดรธานี 330 ราย , ปทุมธานี 323 ราย , เชียงใหม่ 319 ราย , ปราจีนบุรี 319 ราย , ประจวบคีรีขันธ์ 309 ราย , อ่างทอง 306 ราย , เพชรบุรี 298 ราย , สระแก้ว 285 ราย , ภูเก็ต 282 ราย , มหาสารคาม 277 ราย , ศรีสะเกษ 277 ราย , หนองคาย 253 ราย
กาญจนบุรี 249 ราย , สุโขทัย 244 ราย , สระบุรี 243 ราย , กำแพงเพชร 234 ราย , จันทบุรี 234 ราย , สุรินทร์ 233 ราย , กาฬสินธุ์ 212 ราย , สตูล 203 ราย , กระบี่ 195 ราย , ระนอง 190 ราย , ตราด 177 ราย , ชุมพร 173 ราย , นครนายก 173 ราย , เลย 170 ราย , สุราษฎร์ธานี 164 ราย , ชัยภูมิ 153 ราย , นราธิวาส 153 ราย , ลพบุรี 150 ราย , น่าน 141 ราย , ตรัง 139 ราย , แพร่ 135 ราย , ปัตตานี 133 ราย , ยโสธร 127 ราย , พิษณุโลก 124 ราย , ตาก 114 ราย , บึงกาฬ 112 ราย , สิงห์บุรี 112 ราย , ยะลา 101 ราย และอุทัยธานี 100 ราย ทั้งนี้ ลำพูน ไม่มีรายงานติดเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือเป็น 0 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 70 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 56 ราย ใน 19 ประเทศ โดยมาจากสิงคโปร์มากที่สุด 6 ราย ตุรกี เมียนมา มาเลเซีย ประเทศละ 5 ราย ออสเตรเลีย 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 35 ราย แซนด์บ็อกซ์ 2 ราย กักตัว 13 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 6 ราย มาจากเมียนมา 5 ราย และมาเลเซีย 1 ราย สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-26 มี.ค. 2565 จำนวน 225,987 ราย รายงานติดเชื้อ 1,377 ราย คิดเป็น 0.61% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 202,513 ราย ติดเชื้อ 919 ราย คิดเป็น 0.45% แซนด์บ็อกซ์ 19,856 ราย ติดเชื้อ 354 ราย คิดเป็น 1.78% และกักตัว 3,618 ราย ติดเชื้อ 104 ราย คิดเป็น 2.87%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 26 มี.ค. ฉีดได้ 250,033 โดส สะสมรวม 128,649,461 โดส เป็นเข็มแรก 55,292,140 ราย คิดเป็น 79.5% ของประชากร เข็มสอง 50,235,986 ราย คิดเป็น 72.2% ของประชากร และเข็มสาม 23,121,335 ราย คิดเป็น 33.2% ของประชากร