28 ส.ค. 2564
60 views
ขนาดตัวอักษร
ช้าง ถูกยกย่องเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แสดงถึงความเป็นเอกราช และอิสระภาพ ยิ่งในประวัติศาสตร์ยุคสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ช้างเป็นส่วนสำคัญในการทำสงคราม และการทำยุทธหัตถี
.
ซึ่งค่ายภาพยนตร์ไทยได้หยิบเรื่องราวของช้าง มาสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น “ก้านกล้วย” บอกเล่าถึงความเป็นมาของช้างพระที่นั่งของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งที่ทำสงครามยุทธหัตถี หรือในชื่อจริงคือ “เจ้าพระยาปราบหงสาวดี” ที่ได้รับความนิยมจากเด็ก ๆ และคอภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นไทยและต่างชาติ จนหลายคนเชื่อว่าช้างพระที่นั่ง มีชื่อว่า ก้านกล้วย
.
แต่แท้จริงแล้ว ชื่อ “ก้านกล้วย” เป็นเพียงชื่อในภาพยนตร์เท่านั้น Backbone MCOT จะพาทุกคนไปรู้จักตัวจริงของ“เจ้าพระยาปราบหงสาวดี” ช้างพระที่นั่งในสมเด็จพระนเรศ ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้เลย
ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ช้างพระที่นั่งของสมเด็จพระนเรศ มีชื่อว่า “พลายภูเขาทอง” หรืออีกชื่อหนึ่งที่รู้จัก คือ “พลายพุทรากระแทก หรือ พลายพุทรากระทืบ” โดยหลังจากขึ้นระวางแล้วได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าพระยาไชยานุภาพ” เป็นช้างคู่พระบารมีในสมเด็จพระนเรศ
.
จนต่อมาเมื่อครั้งทำศึกยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 ณ ตำบลท่าคอย หรือในปัจจุบัน คือ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ตามพงศาวดาร ระบุว่า
.
พระมหาอุปราชา(นันทบุเรง) ได้รับสั่งให้ทหาร 2.4 แสนคน มาตีกรุงศรีอยุธยา ยึดให้เป็นเมืองขึ้น สมเด็จพระนเรศ จึงได้เตรียมไพร่พลพร้อมปกบ้านป้องเมือง นำทัพตั้งค่ายอยู่ที่สุพรรณบุรี จนเมื่อกองทัพทั้ง 2 เผชิญหน้ากัน สมเด็จพระนเรศ ทรงทอดพระเนตรเห็นพระมหาอุปราชา ทรงช้างอยู่ใต้ร่มไม้
.
จึงได้ตรัสถามกับทางพระมหาอุปราชาไปว่า “พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว”
.
เมื่อพระมหาอุปราชาได้ยินดังนั้น จึงเคลื่อนช้างออกมา เพื่อทำยุทธหัตถี กับสมเด็จพระนเรศ โดยช้างทรงของพระมหาอุปราชา มีชื่อว่า พลายพันธกอ ที่ตามพงศาวดาร ระบุว่า มีขนาดใหญ่และสูงกว่าเจ้าพระยาไชยานุภาพอย่างมาก
เมื่อพลายพันธกอได้วิ่งเข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ ทำให้เจ้าพระยาไชยานุภาพเสียหลัก พระมหาอุปราชาจึงได้สบโอกาสใช้พระแสงของ้าวฟันพระนเรศวร แต่พระองค์ทรงเบี่ยงหลบทัน พลาดโดนเพียงพระมาลาหนัง(หมวก) ของสมเด็จพระนเรศ เท่านั้น
.
สบโอกาสเจ้าพระยาไชยานุภาพ ใช้ความเฉลียวฉลาด ใช้เท้ายันโคนต้นพุทราแบกร่างยันสู้กับช้างข้าศึกที่มีขนาดใหญ่กว่า ออกแรงพุ่งเข้าชนพลายพันธกอจนเสียหลัก เป็นโอกาสให้สมเด็จพระนเรศ ใช้แสงของ้าวฟันพระมหาอุปราชา โดนที่พระอังสะขวา(บ่า) ทำให้พระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์บนคอช้างในทันที
.
โดยหลังจากชนะในศึกยุทธหัตถีครั้งนั้น สมเด็จพระนเรศได้พระราชทานนามให้เจ้าพระยาไชยานุภาพ ขึ้นเป็น “เจ้าพระยาปราบหงสาวดี” นับแต่นั้นเป็นต้นมา เป็นการยกย่องช้างคู่พระบารมี ที่มีความจงรักภักดี และมีความกล้าหาญ เสียสละ ช่วยกอบกู้ชาติกู้แผ่นดิน เคียงข้างพระองค์
.
ซึ่งเจ้าพระยาปราบหงสาวดี นับว่าเป็นช้างที่มีลักษณะทางคชลักษณ์ดี โดยเฉพาะส่วนหลังที่โค้งลาด คล้ายก้านกล้วย จนค่ายภาพยนตร์ หยิบจุดเด่นนี้ มาเป็นชื่อตัวละครช้างในการ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดังนั้นเอง
.
ทั้งนี้เมื่อหลังจากการทำสงครามสิ้นสุดลง เจ้าพระยาปราบหงสวาดี ล้มลงในปี พ.ศ.2139 หรือหลังจากการทำศึกยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา 4 ปี สมเด็จพระนเรศ ได้โปรดให้มีการสร้างเมรุและพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติเจ้าพระยา ซึ่งตามหลักฐานก็เชื่อได้ว่านับแต่นั้นสมเด็จพระนเรศ ไม่ได้ทรงช้างเชือกไหนอีกเลย
.
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย!
ชื่อของเจ้าพระยาไชยานุภาพ ยังถูกนำมาใช้ในหลายโอกาส หนึ่งในนั้นถูกนำมาเป็นเกียรติตั้งชื่อให้กับชุดฟุตบอลทีมชาติไทย ที่มีฉายาในวงการฟุตบอลว่า ช้างศึก โดยเมื่อปี 2560 วาริกซ์สปอร์ต ได้ออกแบบชุดเหย้าให้กับทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ในชุดสีดำล้วน และตั้งชื่อว่า “ไชยานุภาพ” นั้นเอง
.
สำหรับแฟนเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย สามารถติดตามชมซีรีส์ฟอร์มยักษ์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเดอะซีรีส์” ภาคองค์ประกันหงสา ได้ทาง ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ทุกวันเสาร์–อาทิตย์ เวลา 18.00 น.
ขอบคุณแหล่งข้อมูลและที่มา
•https://www.silpa-mag.com/news/article_63040
•จากจดหมายเหตุของ de Coutre
ขอบคุณภาพจาก
•จิตรกรรมฝาผนัง อาคารภาพปริทัศน์ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ
•จิตรกรรมฝาผนังพระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน ยุทธหัตถี ในพระวิหารวัดสุวรรณดารารามจ.พระนครศรีอยุธยา